ผลเสียของเด็กที่ถูกเร่งรัด เร่งรีบตลอดเวลา ( The Hurried Child Syndrome)
“ตื่น อาบน้ำ กินข้าว เร็วๆนะลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”
“รีบทำการบ้านนะลูก เดี๋ยวทำไม่เสร็จ ไม่ทันส่งคุณครู”
“ลูกต้องเรียนพิเศษวิชาเลข ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน วิชา………..เดี๋ยวเรียนไม่ทันเพื่อน สอบได้คะแนน เกรดไม่ดี สู้เพื่อนไม่ได้”
“วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นอกจากไปติว เรียนพิเศษแล้ว ลูกต้องไปเล่นกีฬา เรียนว่ายน้ำ เทควันโด ไปเรียนดนตรี ร้องเพลง เล่นเปียโน ไวโอลิน ดนตรีไทย รำไทย ลูกจะได้มีความรู้ เก่งหลายด้าน นะคะ”
เด็กที่ถูกเร่งรัด กดดันตั้งแต่เช้าจนค่ำ เพื่อฝึกให้เก่งรอบด้าน เป็น super baby, genius baby บางคนถูกผลักดันให้เรียนและนับเลขได้ตั้งแต่ก่อนจะเดินได้ ถูกผลักดันให้เรียนเก่ง อัจฉริยะเหนือเด็กคนอื่น อาจมีผลเสียทำให้ลูกมีอาการเด็กที่ถูกเร่งรัด ( The Hurried Child Syndrome) เนื่องจากขาดช่วงเวลาของความเป็นเด็ก ไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง ขาดโอกาสเล่น หัวเราะสนุกสนาน มีความสุขตามวัยกับเพื่อน ไม่มีเวลาสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างลูกและครอบครัว ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ ทำให้เครียด นอนไม่หลับ ปัสสาวะรดที่นอน บางคนเครียด กังวลมากจนมีผลเสียต่อการเรียนรู้ เบื่อเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ กลัวล้มเหลว ไม่สมหวัง ไม่สมกับที่พ่อ แม่คาดหวัง กลัวว่าพ่อแม่ไม่ยอมรับ เครียดง่าย วิตกกังวล กระวนกระวาย มีความอดทนต่ำ หงุดหงิดง่าย มีพฤติกรรมเจ้าระเบียบ เน้นความถูกต้อง และยึดกับกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้มากเกินไป ไม่รู้จักยืดหยุ่น ไม่ร่าเริงแจ่มใส อึดอัดมากเมื่อไม่ได้ดังใจ ซึมเศร้า และร้องไห้ง่าย หรือ มีอาการทางกาย เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะและปวดท้องที่ตรวจแล้วไม่พบหาสาเหตุทางกาย
No comments:
Post a Comment