ร้อนใน หรือแผลร้อนใน (Apthous ulcer) คือ แผลเปิดภายในช่องปากเกิดจากการแตกของเยื่อเมือก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุอย่างชัดเจนได้ว่า ร้อนในเกิดขึ้นจากอะไร แต่มีหลายปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิดอาการร้อนในขึ้น เช่น - การนอนดึก อดนอนเป็นประจำ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย - ความเครียด ความเหนื่อยล้า - การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงในช่วงก่อนประจำเดือนมา หรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ มักมีอาการร้อนในเกิดขึ้น - การแพ้อาหารบางชนิด - การขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก - การสูบบุหรี่ แต่สำหรับทางการแพทย์แผนจีนจะมองว่าอาการร้อนในเกิดจาก "หยินหยาง" ในร่างกายไม่สมดุลกัน หากใครมี "หยิน" พร่อง เมื่อได้รับปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็จะเป็นร้อนในได้ง่าย ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็อย่างเช่น ทานของมัน ของทอด อากาศร้อน พักผ่อนน้อยไป
อาการร้อนใน มีอะไรบ้าง คนที่เป็นแผลร้อนในเริ่มแรกจะมีแผลหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นมาในริมฝีปากด้านใน หรือกระพุ้งแก้ม หรือบริเวณลิ้น จากนั้นตุ่มแดง ๆ จะกลายเป็นเม็ดสีขาวมีขอบสีแดงนูนออกมา มีอาการบวม และกลายเป็นแผลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ทำให้เรารู้สึกเจ็บ แม้ว่าโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้คนที่เป็นเจ็บปวดและรำคาญไม่น้อยเลย ซึ่งโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะเป็นอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ วิธีแก้ร้อนในในช่องปาก โดยปกติแล้วแผลร้อนในมักจะหายไปได้เองภายใน 7 วัน แต่ถ้าใครมีอาการปวดมาก ผ่านไป 7 วันแล้วก็ยังไม่หายเสียที คงต้องลองไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาดูค่ะ ซึ่งถ้าแพทย์ตรวจดูแล้วพบว่าเราเป็นเพียงอาการร้อนในธรรมดาก็อาจจะให้ยามาทา หรือบ้วนปาก เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเอง ไม่ทำพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอาการร้อนในขึ้นอีก อาการร้อนในที่เป็นอยู่ก็อาจจะหายได้เร็วขึ้นด้วยเหมือนกัน ทำง่าย ๆ ตามนี้เลย - หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอด ของมัน ขนม น้ำตาล ทุเรียน ลำไย ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ ฟังชื่อก็เปรี้ยวปากอยากกินแล้วใช่ไหมล่ะ แต่อาหารพวกนี้แหละ ตัวการที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย แต่ถ้าอยากทานจริง ๆ ก็ทานได้ในปริมาณน้อย ๆ ค่ะ - หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น กระเทียม หอม ขิง ฯลฯ แต่สามารถทานพริกได้ - รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี แปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 30 นาที ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหารด้วย - รับประทานผักผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุ วิตามินอย่างครบถ้วน และจะได้ป้องกันอาการท้องผูก เพราะร้อนในมักเป็นร่วมกับท้องผูก - ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวัน - บ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว - ลดความเครียดลง เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดร้อนในในช่องปากได้อย่างไม่น่าเชื่อ - หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาช่วยลดความเครียด - หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ เพราะจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น - หากมีอาการปวดให้อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือน้ำเย็น ๆ แต่ถ้าปวดมาก ๆ สามารถทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการได้
อาหารแก้ร้อนใน ทานอะไรดี อาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์ร้อน เมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้เกิดความร้อนสะสมอยู่ในร่างกายจนปรากฏเป็นอาการร้อนในได้ เมื่อเป็นแบบนี้ การทานอาหารที่มีฤทธิ์ตรงข้ามก็ช่วยบรรเทาอาการร้อนใน และทำให้หายได้เร็วขึ้นเหมือนกัน มาดูกันว่านอกจากการดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ แล้ว อาหารประเภทไหนบ้างที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับร้อนในร่างกายได้เหมือนกัน - มะระ เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย บรรเทาอาการร้อนใน แก้อักเสบ เจ็บคอ - ชะอม ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมในลำไส้ - ถั่วเขียว มีฤทธิ์ขับร้อนใน แก้กระหาย ขับปัสสาวะ - ผักกาดขาว ช่วยแก้ร้อนใน ป้องกันมะเร็ง - ปวยเล้ง เป็นยาเย็น ช่วยขับร้อน แก้กระหาย - แตงกวา ขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ ไฟลวก ถ่ายพยาธิ แก้ท้องเสีย - ตำลึง ดับพิษร้อนภายในร่างกาย ลดอาการไข้ เป็นยาระบายอ่อน ๆ - ฟักเขียว มีฤทธิ์เย็น ช่วยถอนพิษ ขับร้อนในร่างกาย ขจัดเสมหะ ขับปัสสาวะ บำบัดอาการบวมน้ำ ไอ หอบ - หัวไชเท้า ล้างพิษภายใน ดับพิษร้อน บำรุงไต ขับปัสสาวะ ละลายนิ่ว - มะเฟือง ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย ปวดศีรษะ บรรเทาอาการไอ และนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ - แตงไทย ดับกระหาย ลดความร้อนในร่างกาย ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ - ลองกอง ลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย แก้อาการร้อนใน ทำให้ชุ่มคอ - ส้มโอ ช่วยในการขับถ่ายและขับสารพิษแก้อาการท้องอืด ช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ผ่อนพิษไข้ - อ้อย ช่วยบำรุงร่างกาย ลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย บรรเทาอาการกระหายน้ำ - มังคุด ช่วยลดความร้อนภายใน แก้กระหายน้ำ ช่วยเพิ่มเมือกภายในลำไส้และกระเพาะทำให้ถ่ายคล่อง - มะตูม ต้มดื่ม ช่วยแก้ร้อนใน ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องเสีย ขับเสมหะ ช่วยเจริญอาหาร - เก๊กฮวย นำมาต้มดื่มช่วงหน้าร้อน ช่วยแก้ร้อนใน บำรุงตับ บำรุงประสาท บำรุงสายตา ขับลมในลำไส้ - กระเจี๊ยบ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการไอ - รากบัว แก้ร้อนใน ลดไข้ บำรุงโลหิต ช่วยให้เจริญอาหาร - หล่อฮั้งก้วย นำมาต้มดื่ม ช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ขับเสมหะ แก้ท้องผูก โรคหลอดลมอักเสบ หืด หอบ - ใบบัวบก ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน รักษาอาการเจ็บคอ บำรุงโลหิตในร่างกาย บำรุงหัวใจ วิธีการเหล่านี้คงช่วยให้อาการร้อนในในช่องปากของเพื่อน ๆ หายได้เร็วขึ้นบ้างล่ะค่ะ แต่ถ้าใครเป็นร้อนในหลายสัปดาห์แล้วยังไม่มีวี่แววว่าแผลจะหายสักที แบบนี้ลองไปพบแพทย์ให้ตรวจวินิจฉัยหน่อยดีกว่าค่ะ เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นได้เหมือนกัน
เราจะผอมไปด้วยกัน กับเมนูอาหารเน้นโปรตีน สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ เพิ่มกล้ามเนื้อ แถมไขมันต่ำ มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม กินทุกวันรอบเอวลดแน่นอน
ใครอยากทำอาหารหนักโปรตีน โดยเฉพาะเมนูไข่ขาว หรือเมนูอกไก่ แบบไม่จำเจ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารเน้นโปรตีน เช่น โจ๊กอกไก่ปั่น โจ๊กไข่ขาว เบอร์เกอร์อกไก่ อกไก่นุ่ม อกไก่พะโล้ เนยถั่วคลีน รับรองทำเสร็จหน้าตาดีและยังน่าหม่ำอีกด้วย
1. โจ๊กอกไก่ปั่น
เคยลองยัง ? ถ้าหากอยากลองจัดเลยกับโจ๊กอกไก่ปั่น สูตรจาก คุณ FMR_Woodyinho สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เริ่มจากต้มข้าวให้นิ่ม และต้มอกไก่ให้สุก แบ่งอกไก่บางส่วนไปปั่นจนละเอียดแล้วเทใส่หม้อข้าวต้ม สุดท้ายโรยไก่ต้มฉีก
ส่วนผสม โจ๊กอกไก่ปั่น
• ข้าวหอมมะลิ (หรือข้าวอื่น ๆ) 1/2 ถ้วยตวง
• น้ำสำหรับต้มข้าว 5 ถ้วยตวง (เพิ่ม-ลดได้)
• อกไก่ (ประมาณ 500 กรัม) 2 อก
• น้ำเปล่า (สำหรับต้มไก่) 1+1/2 ถ้วยตวง
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ขิงซอย ต้นหอม ผักชี พริกไทย (สำหรับโรยหน้า)
• ซีอิ๊วขาว
• ไข่ต้ม
วิธีทำโจ๊กอกไก่ปั่น
1. ต้มข้าวให้สุกนิ่ม ใช้เวลานานนิดหนึ่ง (แต่จริง ๆ แล้วทำโจ๊กต้องใช้ปลายข้าว เม็ดละเอียด ๆ จะได้นิ่มเร็ว ๆ) เมื่อข้าวได้ที่แล้วยกลงจากเตา
2. นำอกไก่ต้มให้สุก เก็บน้ำต้มไก่ไว้ใช้ตอนปั่นด้วยค่ะ (หากใครมีสองเตา ต้มข้าวพร้อมกับต้มไก่ไปด้วยเลย จะได้ประหยัดเวลา)
3. นำอกไก่เกือบทั้งหมดใส่โถปั่น ปั่นจนละเอียด เหลือไว้สองสามชิ้นสำหรับทำไก่ฉีกโรยหน้าโจ๊ก
4. นำไก่ที่ปั่นแล้วเทใส่หม้อข้าวต้มคนให้เข้ากัน เติมเกลือเพิ่มรสชาติ ลักษณะของข้าวจะข้นขึ้นคล้าย ๆ กับใส่นมผง พอเดือดก็ยกลง
5. ตักใส่ชาม โรยด้วยไก่ฉีก ขิงซอย ต้นหอม ผักชี และพริกไทย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โจ๊กอกไก่ปั่น สูตรอาหารเพิ่มกล้ามเนื้อ โปรตีนแน่นแบบไม่กล้ำกลืน
++++++++++++++++++
2. โจ๊กไข่ขาว
ใครเบื่อโจ๊กอกไก่ปั่นก็ลองเปลี่ยนมาทำโจ๊กไข่ขาว สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1474198 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้ไข่ขาวแทนข้าวโจ๊ก โดยเอาไปต้มในไมโครเวฟจนสุก สุดท้ายแต่งด้วยผักและเครื่องเคราอื่น ๆ ตามชอบ
ส่วนผสม โจ๊กไข่ขาว
• ไข่ขาวสำเร็จรูป (จะซื้อไข่ไก่เป็นแพ็กแล้วมาแยกไข่ขาวเองก็ได้ไม่ว่ากัน)
• เครื่องเคียง เช่น ผักต้ม, ทอดมันเจ, แซลมอนรมควัน
• เครื่องปรุงรสตามชอบ เช่น ซีอิ๊วขาว, ซอสแม็กกี้
• น้ำร้อน
วิธีทำโจ๊กไข่ขาว
1. เริ่มจากต้มผักและผัดเครื่องเคียงตามใจชอบ จากนั้นพักไว้
2. เทไข่ขาวลงในชามแล้วเติมน้ำร้อนลงไป (อัตราส่วนของไข่ขาวต้องมากกว่าน้ำร้อนประมาณครึ่งหนึ่ง) และคนให้เข้ากัน ก่อนนำเข้าไมโครเวฟแนะนำให้ปิดภาชนะด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ขาวแตกกระจายเวลานำเข้าไมโครเวฟจนร้อนเกินไป)
3. นำเข้าไมโครเวฟ ซึ่งระหว่างนี้ต้องคอยสังเกตดูเนื้อของโจ๊กเรื่อย ๆ (ประมาณทุก ๆ 2 นาที) พอเราได้เนื้อโจ๊กที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
4. เติมเครื่องเคียงและปรุงรสได้ตามต้องการเลยนะครับ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำโจ๊กไข่ขาว อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แคลอรีต่ำ เน้นโปรตีน อิ่มสบายท้อง
++++++++++++++++++
3. ไข่ขาวห่อแซลมอน
ไข่ขาวเหลือ ๆ จับมาทำเมนูไข่ขาวห่อแซลมอนราดซอสมะเขือเทศ จาก คุณส้มสีสุก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เริ่มจากทอดไข่ขาวให้เป็นแผ่นแล้วห่อแซลมอนให้สวยงาม ราดซอสมะเขือเทศปิดท้าย
ส่วนผสม ไข่ขาวห่อแซลมอน
• แซลมอน
• ไข่ขาว
• น้ำมันมะกอก
• ซอสมะเขือเทศ
วิธีทำไข่ขาวห่อแซลมอน
1. ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยลงในกระทะ เทไข่ขาวลงไปทอดเป็นแผ่นจนสุก
2. ตักขึ้นมาห่อปลาแซลมอนให้สวยงาม ราดด้วยซอสมะเขือเทศ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 23 เมนูอาหารคลีนสุดแนว ปรับสูตรตามใจ กินง่ายเพรียวได้ใน 1 เดือน
++++++++++++++++++
ภาพจาก gimmesomeoven.com
4. ไข่เจียวเม็กซิกัน (ไข่ขาว)
จากที่เคยทำอาหารเม็กซิกันด้วยแป้งตอร์ตีญ่า ลองเปลี่ยนมาใช้ไข่ขาวกันบ้างดีไหม พบกับเมนูไข่ขาวเจียวสไตล์เม็กซิกัน จับไข่ขาวทอดเป็นแผ่น เสร็จแล้วใส่เครื่องเคราต่าง ๆ ลงไป สุดท้ายพับครึ่งให้สวยงาม
ส่วนผสม ไข่เจียวเม็กซิกัน
• น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
• พริกจาลาปิโนสับ 1 เม็ด
• หอมแดง (หั่นเต๋า) 1/2 ถ้วย
• กระเทียมสับ 1 กลีบ
• มะเขือเทศเชอร์รี (หั่นครึ่ง)
• เกลือป่น
• พริกไทย
• ไข่ขาว (ตีเข้าด้วยกัน) 6 ฟอง
• อะโวคาโด (หั่นเต๋า)1/2 ลูก
• ผักชีซอย
• โคติฆาชีสป่น (Cotija)
วิธีทำไข่เจียวเม็กซิกัน
1. ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่พริกจาลาปิโนและหอมแดงลงไปผัดประมาณ 3 นาที ใส่กระเทียมและมะเขือเทศลงไปผัดต่ออีกประมาณ 3 นาที ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ตักใส่ภาชนะ พักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง เทไข่ขาวลงไปทอดจนสุกประมาณ 2-3 นาที (ไม่ต้องพลิกกลับด้าน) ตักใส่ภาชนะ ใส่ส่วนผสมหอมแดงลงไปเพียง 1/2 ส่วนของไข่ ตามด้วยอะโวคาโด ผักชีซอย และชีสป่นลงไป จัดการพับครึ่ง โรยผักชีและชีสให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Mexican Egg White Omelet / gimmesomeoven.com
++++++++++++++++++
5. เบอร์เกอร์อกไก่ไข่ขาว
เบอร์เกอร์ไก่ทั่วไปคงต้องชิดซ้ายให้กับเบอร์เกอร์อกไก่ไข่ขาว สูตรจาก คุณ Salome'ST สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับอกไก่สับผสมกับแครอทและหอมใหญ่ เสร็จแล้วเอาไปย่างจนสุก ท็อปด้วยไข่ขาวทอด และผักต่าง ๆ
ส่วนผสม เบอร์เกอร์อกไก่ไข่ขาว
• เนื้ออกไก่
• หอมหัวใหญ่
• แครอท
• ไข่ไก่
• พริกไทย
• ผงปาปริก้า
• โรสแมรี
• ออริกาโน่
• เกลือ
• แป้งพิต้า (โลวคาร์บ)
• เห็ดออรินจิ
• หน่อไม้ฝรั่ง
วิธีทำเบอร์เกอร์อกไก่ไข่ขาว
1. นำอกไก่ที่เตรียมไว้มาสับให้ละเอียด จากนั้นก็นำแครอทและหอมใหญ่มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วก็นำอกไก่ แครอท และหอมใหญ่มาผสมกัน
2. ปรุงรสด้วยพริกไทย ผงปาปริก้า โรสแมรี ออริกาโน่ และเกลือ ขยำทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นตอกไข่แดงลงไป แล้วก็ขยำทุกอย่างให้เข้ากันอีกครั้ง ปล่อยให้เนื้อเบอร์เกอร์เข้าเครื่องกันสักพัก
3. นำแป้งพิต้ามาอุ่น และนำเนื้อเบอร์เกอร์ปั้นเป็นแผ่นกลม เห็ดออรินจิ และหน่อไม้ฝรั่งลงไปย่างจนสุก
4. ทอดไข่ขาวจนสุกเอาไว้แปะบนเนื้อเบอร์เกอร์
5. ทำซอสซาสึกิ โดยนำโยเกิร์ต 0% ผสมกับแตงกวา หอมแดง และผักชีลาว ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว เกลือ และน้ำตาลนิดหน่อย จัดเครื่องเคราต่าง ๆ และราดซอสลงบนแป้งพิต้าแผ่นล่าง แล้วเอาแป้งพิต้าแผ่นบนลงไปประกบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำอาหารลดน้ำหนัก สูตรกินอย่างไรให้ผอม อาทิตย์เดียวลดไป 2 กก.
++++++++++++++++++
6. อกไก่นุ่ม
ใครเคยทำเมนูอกไก่แล้วแข็งกระด้างต้องลองมาจดสูตรนี้เลย พบกับวิธีทำอกไก่นุ่ม สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1860279 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมจับไก่หมักเกลือแล้วทาเนย เสร็จแล้วเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม อกไก่นุ่ม
• น้ำอุ่น
• อกไก่
• เกลือ
• เนยละลาย หรือน้ำมันมะกอก
• ปาปริก้า
• พริกป่น
• ผงกระเทียม
วิธีทำอกไก่นุ่ม
1. เตรียมถ้วยใส่น้ำอุ่นที่เยอะพอจะท่วมตัวอกไก่ ใส่เกลือเล็กน้อย นำอกไก่ใส่ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที หรือนำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง พอครบเวลาแล้วเทน้ำทิ้ง และพยายามหาผ้า หรือทิชชูสำหรับทำอาหารมาเช็ดตัวอกไก่
2. ทาเนยละลาย หรือน้ำมันมะกอกให้ทั่วอกไก่ จะใช้แปรงทา หรืออุปกรณ์ที่มีก็ได้
3. ผสมเกลือ ปาปริก้า พริกป่น และผงกระเทียมจนเข้ากัน เอาไปโรยอกไก่
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15-18 นาที แล้วแต่ความหนาของอกไก่ด้วย
5. พอเอาออกจากเตาก็พักทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยหั่นเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 เมนูอกไก่ อาหารลดน้ำหนักคลีน ๆ ทำง่ายอร่อยนุ่ม อวสานความอ้วน
++++++++++++++++++
7. อกไก่พะโล้
อกไก่นุ่มรสจืดไปหน่อย ขอนำเสนอเมนูอกไก่พะโล้ สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1860279 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมจับอกไก่หมักกับผงพะโล้ เสร็จแล้วเอาไปผัดกับกระเทียม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว สุดท้ายใส่ไข่ต้มลงไป
ส่วนผสม อกไก่พะโล้
• อกไก่ 250 กรัม
• ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีน้ำตาลทราย ผงชูรส และวัตถุกันเสีย)
• กระเทียมสับ 1 หัว
• น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
• ไข่ต้ม 2 ฟอง
• ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันสเปรย์ หรือน้ำมันมะกอก 1/4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำอกไก่พะโล้
1. หั่นอกไก่เป็นชิ้น หมักผงพะโล้ให้ทั่ว
2. เจียวกระเทียม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดพอสุก
3. เติมน้ำเปล่า ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ใส่ไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อประมาณ 1 ชั่วโมง จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 เมนูอกไก่ อาหารลดน้ำหนักคลีน ๆ ทำง่ายอร่อยนุ่ม อวสานความอ้วน
++++++++++++++++++
ภาพจาก natashaskitchen.com
8. สลัดอะโวคาโดอกไก่ไข่ขาว
มื้อเย็นใครอยากกินสลัดยกมือขึ้น ชวนทำสลัดอะโวคาโดอกไก่ไข่ขาว ใส่เม็ดข้าวโพด เบคอนทอด และไข่ต้ม ราดน้ำสลัดเลมอน
ส่วนผสม สลัดอะโวคาโดอกไก่
• อกไก่ต้ม (ลอกหนัง ฉีกเป็นเส้น) 2 ชิ้น
• อะโวคาโด (หั่นชิ้น) 2-3 ลูก
• เม็ดข้าวโพดสุก 1 ถ้วย
• เบคอนทอด (หักเป็นชิ้น) 6 ออนซ์ (หรือประมาณ 170 กรัม)
• ต้นหอมซอย 1/4 ถ้วย
• ผักชีลาวสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ต้ม (ผ่าครึ่ง) 2 ฟอง
ส่วนผสม น้ำสลัดเลมอน
• น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำป่น 1/8 ช้อนชา
วิธีทำสลัดอะโวคาโดอกไก่
1. ใส่ไก่ฉีกกับอะโวคาโดลงอ่างผสม ตามด้วยข้าวโพด เบคอน ต้นหอม และผักชีลาว วางไข่ต้มลงไป เตรียมไว้
2. คนผสมน้ำสลัดเลมอนจนเข้ากัน ราดลงบนสลัดอะโวคาโดอกไก่
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Avocado Chicken Salad / natashaskitchen.com
++++++++++++++++++
9. อกไก่ผัดพริกไทยดำ
ว้าว ! น่ากินหนักมาก พบกับอกไก่ผัดพริกไทยดำ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับอกไก่หั่นชิ้นผัดกับคะน้า ปรุงรสให้เค็มนิด ๆ กินกับข้าวสวยก็พอดี
ส่วนผสม อกไก่ผัดพริกไทยดำ (สำหรับ 2 ที่)
• เนื้ออกไก่ลอกหนัง (หั่นชิ้นบาง) 200 กรัม
• น้ำมันมะกอกแบบ Light 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมกลีบใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
• คะน้าต้นใหญ่ (ปอกโคนแข็งออก หั่นแฉลบ) 4 ต้น
• น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ช้อนชา
• พริกไทยดำบุบพอหยาบ 1 ช้อนชา
วิธีทำอกไก่ผัดพริกไทยดำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอมีกลิ่นหอม
2. ใส่อกไก่ลงผัดพอสุก ใส่ผักคะน้าลงผัดพอเข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ เติมน้ำเปล่า ผัดพอเข้ากัน ตักใส่จาน จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อกไก่ผัดพริกไทยดำ อร่อยนุ่มแคลอรีต่ำใส่ใจสุขภาพ
++++++++++++++++++
10. อกไก่อัลมอนด์
น่าเคี้ยวที่สุดเลยกับเมนูอกไก่อัลมอนด์ สูตรจาก เว็บไซต์ Easy Cookingเริ่มจากหมักอกไก่ด้วยพริกไทยและเกลือ เสร็จแล้วก็เอาไปย่างจนเกือบสุก เอาออกมาทาน้ำผึ้งแล้วโรยอัลมอนด์ และเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม อกไก่อัลมอนด์
• เนื้ออกไก่ผ่าครี่ง (จะได้สุกง่าย)
• เกลือ
• พริกไทยดำ
• น้ำผึ้ง
• อัลมอนด์อบสุก
• พาร์สลีย์สับ
• น้ำมะนาว
วิธีทำอกไก่อัลมอนด์
1. หมักอกไก่กับเกลือและพริกไทยเข้าด้วยกัน พักทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นนำไปกริลล์ในกระทะจนเกือบสุก ประมาณ 90% (หมายเหตุ : หากไม่มีเตาอบให้กริลล์จนไก่สุกพอดี)
2. ทาน้ำผึ้งบาง ๆ ที่ผิวไก่ จากนั้นโรยอัลมอนด์ลงไป ทาน้ำผึ้งบาง ๆ ทับอีกครั้ง นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5 นาที หรืออบจนอัลมอนด์เหลืองสวย
3. นำออกจากเตาอบ โรยพาร์สลีย์สับ บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย (ตามชอบ)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อกไก่อัลมอนด์ อาหารคลีนเมนูไก่ หอมหวานมัน แบบฉบับไฮโซ
++++++++++++++++++
11. เนยถั่วช็อกโกแลตบอล
บ่าย ๆ แบบนี้มาทำของว่างกินเล่นกันเถอะ พบกับเนยถั่วช็อกโกแลตบอล (Peanut Butter Chocolate Ball) สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จับเนยถั่วผสมกับข้าวโอ๊ต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และธัญพืชตามชอบ สุดท้ายใส่ช็อกโกแลตชิพ และปั้นเป็นก้อนกลม
ส่วนผสม เนยถั่วช็อกโกแลตบอล (สำหรับ 5-6 ที่)
• เนยถั่ว 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• ข้าวโอ๊ต 1+1/4 ถ้วย
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสับ 1/2 ถ้วย
• เมล็ดทานตะวัน 1/4 ถ้วย
• ถั่วลิสงอบสับ 1/4 ถ้วย
• ช็อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
วิธีทำเนยถั่วช็อกโกแลตบอล
1. ผสมเนยถั่ว น้ำผึ้ง และน้ำมันมะพร้าว ตั้งไฟอ่อน คนให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นเหนียว ใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน นำไปแช่ตู้เย็นให้ส่วนผสมเย็นตัว
2. พอส่วนผสมเนยถั่วเย็นแล้วใส่ข้าวโอ๊ต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน และถั่วลิสง คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ใส่ช็อกโกแลตชิพ คลุกให้ทั่ว
3. ปั้นเป็นก้อนกลมเท่าผลมะนาว (ผลเล็ก) เรียงใส่กล่อง ปิดฝา แช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนยถั่วช็อกโกแลตบอล ขนมไม่ต้องอบ ทำกินเล่นง่าย ๆ
++++++++++++++++++
12. เนยถั่วคลีน (หวานน้อย)
ใครอยากทำเนยถั่วสูตรหวานน้อยกินเอง พบกับเนยถั่วลิสง สูตรจาก คุณ Angelisa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับถั่วอบกับน้ำมันมะกอกปั่นจนเนียนละเอียด แค่นี้ก็เอามาทาขนมปังได้แล้วจ้า
ส่วนผสม เนยถั่วลิสง
• ถั่วลิสงอบ
• น้ำมันมะกอก
วิธีทำเนยถั่วลิสง
นำถั่วลิสงไปปั่นจนละเอียด เติมน้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย ปั่นจนเหนียว จากนั้นเทเก็บใส่กระปุก
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 25 สูตรอาหารคลีนง่าย ๆ กินง่าย ๆ จัดเต็มทั้งคาวและหวาน
++++++++++++++++++
13. เครปผงโปรตีนมะม่วงเบอร์รี
กินคาวแล้วต้องตบท้ายด้วยของหวานั่นคือ เมนูเครปผงโปรตีนมะม่วงเบอร์รี สูตรจาก คุณ #HealthyPD สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ผสมแป้งโฮลวีทกับผงโปรตีนและไข่ขาว เสร็จแล้วเอาไปทอดเป็นแผ่น ทาโยเกิร์ต ท็อปด้วยมะม่วงและเบอร์รี
ส่วนผสม เครปเวย์โปรตีนมะม่วงเบอร์รี
• เวย์โปรตีน รสมอคค่า
• แป้งโฮลวีท
• ไข่ขาว
• โยเกิร์ตไขมันต่ำ (Non-Fat)
• มะม่วงสุก
• เบอร์รีรวมแช่แข็ง
วิธีทำเครปเวย์โปรตีนมะม่วงเบอร์รี
1. เริ่มจากผสมไข่ขาว เวย์โปรตีน และแป้งโฮลวีทเข้าด้วยกัน เทลงบนกระทะเทฟลอน ใช้ไฟอ่อน จะกลับแป้งหรือไม่ก็ได้ พอแป้งสุกแล้ว ปิดเตา
2. ทาด้วยโยเกิร์ตไขมันต่ำ วางทับด้วยมะม่วงสุกหั่นบาง แล้วพับแป้ง ทาด้วยโยเกิร์ตด้านบนแล้วโปะด้วยเบอร์รีรวมแช่แข็ง พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 11 สูตรขนมคลีน ของหวานอร่อยไม่ทำร้ายสุขภาพ
++++++++++++++++++
14. บราวนี่ผงโปรตีนมอคค่า
ใครมีเตาอบมาลองทำเมนูบราวนี่เวย์โปรตีนมอคค่า สูตรจาก คุณ #HealthyPD สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ผงโปรตีนผสมกับแป้งโฮลวีท เติมน้ำผึ้งและผงโกโก้ พอปั่นจนเข้ากันก็เทใส่พิมพ์และเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม บราวนี่เวย์โปรตีนมอคค่า
• เวย์โปรตีน รสมอคค่า 1 ถ้วย
• แป้งโฮลวีท 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
• โยเกิร์ต 1 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
• ช็อกโกแลตชิพ 1 กำมือ
วิธีทำบราวนี่เวย์โปรตีนมอคค่า
1. ปั่นทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเทใส่พิมพ์
2. นำเข้าไปอบใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 180 องศาเซลเซียส เวลา 20 นาที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 11 สูตรขนมคลีน ของหวานอร่อยไม่ทำร้ายสุขภาพ
++++++++++++++++++
15. มอคค่าโปรตีนเชค
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มมอคค่าโปรตีนเชค ใส่ผงโปรตีนผสมกับน้ำกาแฟ และนมอัลมอนด์ ใส่น้ำแข็ง พอปั่นจนละเอียดก็เทใส่แก้วยกดื่มได้เลยจ้า
ส่วนผสม มอคค่าโปรตีนเชค
• ผงโปรตีน รสช็อกโกแลต 1/2 สกู๊ป
• ผงโปรตีน รสวานิลลา 1 สกู๊ป
• กาแฟเย็น 6 ออนซ์ (หรือประมาณ 170 กรัม)
• นมอัลมอนด์ สูตรไม่หวาน 6 ออนซ์ (หรือประมาณ 170 กรัม)
• น้ำแข็ง 1 ถ้วย
วิธีทำมอคค่าโปรตีนเชค
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ใช้ความเร็วสูง ปั่นจนละเอียด ถ้าหากข้นเกินไปเติมนมอัลมอนด์ลงไปนิดหน่อย
2. เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรทำขนมใส่ผงโปรตีน ของหวานคลีนเติมคุณค่าอร่อยแบบไม่อ้วน